บทพิสูจน์ความรัก

ความรักของเรานั้นต่างกัน คงบอกไม่ได้ว่า ความรักแบบนั้นผิดหรือรักแบบนี้ถูก คนที่รู้จัก “รัก” บ่อยครั้งมักจะถูกเรียกว่า คนอ่อนไหว (Sensitive person) คือ คนที่มีความรู้สึกมากมายกับคนรอบข้าง มีความรัก รู้สึกถึงคุณค่าของความรัก ความสุข ระหว่างตัวเองกับคนรัก รู้ว่าต้องใส่ใจ ดูแล คอยแคร์ หรือพยายามรักษาไว้ให้ดี (sensitive person feels more, love more) แต่ไม่ใช่ทุกคนจะรู้จักกับความรัก บางคนไม่รู้จักการรักคนอื่น เขาจะรักตัวเองมากๆ จนไม่เข้าใจว่าความรักที่ให้คนอื่นเป็นอย่างไร ไม่ใช่เพราะเขาเห็นแก่ตัวหรือไม่มีหัวใจ แต่อาจเป็นเพราะเขามีเกาะป้องกันความรู้สึก กลัวความผิดหวัง กลัวเสียใจ หรือกลัวถูกหลอก อาจเป็นเพราะประสบการณ์ที่ไม่ดี(โดยเฉพาะฝรั่ง)  ปัญหาในครอบครัวหรือนิสัยส่วนตัว เขาอาจจะไม่รู้จักรักใคร เขาจึงไม่เข้าใจหรือไม่ได้ใส่ใจกับความรักที่มี หากมีคนมารัก เขาจะคิดในใจอยู่เสมอว่า “นี่หรือ ความรัก เธอรักฉันจริงหรือ เพราะอะไร ทำไม เพื่ออะไร?” ความรักของเขาจึงมีแต่ความสงสัย หวาดระแวง ไม่แน่ใจ และต้องการการพิสูจน์

รักที่ต้องการพิสูจน์

หลายๆคนที่กำลังมีความรักแบบนี้ หลายคนที่ผ่านมาแล้ว หรือหลายคนที่ยังไม่รู้ตัวว่า เรากำลังถูกพิสูจน์ความรักอยู่หรือเปล่า ความรักที่ต้องการการพิสูจน์นั้นมีได้ทั้งชายและหญิง ผู้ชายบางคนที่ได้รับรักมาอย่างง่ายดาย เขาจะไม่เห็นคุณค่าของคนรัก เขาจะต้องการพิสูจน์ความรักนั้นเสมอ แม้จะอยู่ด้วยกันนานหลายปี แต่ไม่มีความเชื่อใจ เชื่อมั่น ไม่เคยแน่ใจว่า เรารักเขาจริง จึงมักจะมีเรื่องราวมากมายมาท้าทายความรู้สึกคนรักอยู่เสมอ
*บางคนจะบอกว่ายากจน ตะหนี่ถี่เหนียว ทั้งที่มีเงิน เพื่อพิสูจน์ว่าเราจะรักเขาแม้ต้องทุกข์ยากลำบากได้ไหม
*บางคนทำตัวเลวไร้สาระ ออกเที่ยวกลางคืน ดื่มหนัก เขาต้องการพิสูจน์ว่า จะรับตัวตนเขาในแง่นั้นได้ไหม
*บางคนเย็นชา แข็งกระด้าง เหมือนไม่ได้ใส่ใจ เขาอาจต้องการพิสูจน์ความอ่อนหวานเอาใจของคนรัก
*บางคนใช้เวลาพิสูจน์รัก เขาต้องการพิสูจน์ ความมั่นคง เข้มแข็ง กับการรอคอย
*บางคนนอกใจเพราะไม่มั่นใจในรักที่ตัวเองมีอยู่ จึงอยากพิสูจน์ว่ารักไหนจะดีกว่า
*บางคนชอบบอกเลิกแฟน เพื่อพิสูจน์ว่า เราจะมั่นคงในรักที่มีให้เขาแค่ไหน หากไม่ได้คบกันแล้วจะยังรักและรอเขาไหม การพิสูจน์นี้ต้องใช้ความเข้มแข็งมากๆ เพราะจะรวมทั้งระยะทาง เวลา หรือการให้อิสระต่อกันและกัน อาจเป็นการวัดใจของทั้งสองฝ่าย และต้องขึ้นอยู่ว่า ฝ่ายใดเลือกที่จะรอหรือเลือกที่จะมีใครใหม่ การพิสูจน์นี้อาจใช้เวลาสักพัก หลายเดือน หรือปลายปี หรือมีคนใหม่ไปหลายต่อหลายคน จนกว่าเข้าใจว่าเรารักใคร หรือใครรักเรา
*ผู้หญิงหลายๆคนก็ชอบพิสูจน์รักเช่นกัน แต่การพิสูจน์นั้นอาจจะแตกต่างกันไป อาจยาวนานยิ่งกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ เช่น ต้องการให้แฟนปรับเปลี่ยนนิสัย “หากคุณรักฉันคุณต้องเลิกเที่ยวกลางคืน” หรือ “หากคุณรักฉัน คุณต้องเลิกเหล้า เลิกบุหรี่” หรือ “หากคุณรักฉัน คุณต้องแต่งงานกับฉัน” หรือ แม้กระทั่งการใช้เงินทองของมีค่าเพื่อพิสูจน์รัก ว่าเขานั้นจะยอมทุ่มเทให้เธอแค่ไหน และหลายๆคนก็ไม่เชื่อว่าเขาจะรักจริง จนกว่าจะได้แต่งงานกัน มีลูกด้วยกัน หรือบางคนแม้จะแต่งงานกันหลายปี ก็ยังไม่มีความมั่นใจหรือเชื่อมั่นในรักที่มีให้กัน อาจจะไม่มีวันเชื่อมั่นในความรักที่มีเลยก็เป็นไปได้

เมื่อความรักของคนสองคนไม่เท่ากัน จึงต้องผ่านบทพิสูจน์เหล่านี้ หากคู่รักใดหรือใครผ่านไปได้ ก็จะมีความรักที่เต็มไปด้วยความรู้สึก ความทรงจำ ความเข้มแข็ง มั่นคง เชื่อใจกันและกัน หากไม่สามารถผ่านไปได้ หรือหากวันนึงเราเข้าใจแล้วว่า ความรักที่ต้องพิสูจน์นั้น มันไม่ใช่รักที่เราต้องการแล้ว เหนื่อยกับการรอคอยแล้ว มันก็ถึงเวลาที่ต้องแยกทางกันหรือเลิกกันไป

รักที่ไม่ต้องพิสูจน์

อาจเป็นเหมือนดั่งนิยาย หากจะพบเจอกับความรักที่เข้าใจ หรือมีความรู้สึกว่า เราเกิดมาเพื่อเป็นคู่กัน เพื่อรักและดูแลกันและกัน อาจเกิดจากรักระหว่างเพื่อน รักที่รู้จักคุ้นเคยกันจนเข้าใจ หรือเกิดจากคนสองคนที่หัวใจพร้อมจะรักกันจึงเปิดโอกาศให้กันและกัน ความรักที่เริ่มต้นจากจิตใจที่เหมือนกัน ก็ไม่ต้องการการพิสูจน์ใดๆ ความรักที่ให้เกีรยติซึ่งกันและกัน ความรักที่ไม่ต้องทำร้ายจิตใจกัน ไม่ต้องรอคอยความสุขในวันข้างหน้า รักที่รู้คุณค่าของเวลาที่เหลือน้อย ความรักที่พร้อมจะทำให้กันและกันมีความสุขในทุกๆขณะ รักที่เชื่อใจ ไว้ใจ เปิดเผย และรักในตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน หากใครได้เจอความรักแบบนี้ ถือว่าเป็นโชคดี ถือว่าเป็นบุญที่ได้ทำร่วมกันมา ได้พบกัน รักกัน แต่ชีวิตคู่ก็ต้องมีบ้างที่วันใดวันนึงอาจเกิดอุปสรรค ความสงสัย หรือความรักที่เปลี่ยนไป เมื่อถึงวันนั้นก็ต้องดูว่า ทั้งคู่นั้นจะเข้มแข็ง และมีความรักที่มั่นคง หรือแข็งแรงพอที่จะผ่านมันไปด้วยกันได้หรือไม่

บางครั้ง ความรัก ก็มีบทพิสูจน์ของมันเอง บทพิสูจน์ที่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้เลือกหรือหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ความรักกับหน้าที่การงานสังคมที่แตกต่างกัน ความรักกับภาษาและความไม่เข้าใจ ความรักกับระยะทางที่ห่างไกล ความรักกับชนชั้นทางสังคม ความรักกับเงินทอง หรือ ความรักกับสุขภาพร่างกาย อุปสรรคต่างๆอื่นๆอีกมากมาย

ไม่ใช่ว่าเรานั้นอ่อนแอหรือเข้มแข็งไม่พอ หากเลือกที่จบความรักที่เรามีกับคนๆนึง หรือเลือกที่จะพิสูจน์รักและรอต่อไปเพื่อกันและกันในอนาคต บางคนอาจคิดว่า การเลิกลา คือ การยอมแพ้ เราไม่เข้มแข็งพอที่จะผ่านบทพิสูจน์นั้น แต่ในทางกลับกันก็อาจหมายความว่า เราเข้มแข็งพอที่จะยอมรับผลและเลือกทางเดินอีกทางให้ชีวิต เลือกความรักที่เราต้องการ เลือกเพื่อภาระหน้าที่ที่เราต้องรับผิดชอบ เลือกเพื่อความสุขของตัวเราหรือเขา เลือกที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เพราะความรักมีได้หลายแบบและอาจมีได้หลายครั้ง ที่สำคัญคือ เราต้องรักตัวเองด้วย ต้องเชื่อมั่นในความดีที่เราทำไว้ ว่าจะนำพาให้เราได้พบเจอกับความรักและความสุขที่รอคอยสักวัน