ล่ามคิดบวก

ฉันคิดว่าตัวเองโชคดีที่เกิดมาเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี เป็นคนที่คิดบวกอยู่เสมอและเป็นคนที่ไม่แคร์คนหรือเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง

บทความนี้จะพูดถึงการคิดบวกกับการเป็นล่าม

ในโลกเรานี้มีคนคิดลบมาก ทั้งๆ ที่อยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว อยู่ดี กินดีแต่ ก็ยังคิดลบอยู่ มีพวกที่คอยจับผิด คอยซ้ำเติมคนอื่น มีพวกที่คอยยุแหย่ เราก็จะต้องคอยรับมือคือ ต้องคิดบวก ทำดีต่อไปเรื่อยๆ ไม่ถือสา ไม่ต้องไปใส่ใจกับการกระทำหรือคำพูดที่ไร้สาระ

คำศัพท์

– optimist ผู้ที่มองโลกในแง่ดี
– pessimist ผู้ที่มองโลกในแง่ร้าย
– realist ผู้ที่ยอมรับความจริงตามสถานการณ์
– think positive, positive thinking, positive thought การคิดบวก ความคิดที่เป็นบวก
– negative thought, negative thinking ความคิดที่เป็นลบ การคิดลบ

ไม่มีใครที่จะคิดบวกหรือมองโลกในแง่ดีตลอดเวลา ผู้ที่มองโลกในแง่ดี คือพวกที่มักจะคิดบวกเป็นส่วนใหญ่ ส่วนผู้ที่มองโลกในแง่ร้าย ก็คือพวกที่มักจะคิดลบเป็นส่วนใหญ่

คนคิดลบ – เป็นล่ามในอเมริกา ทำงานกับคนที่เดือดร้อน หากินกับคนป่วย คนที่เดือดร้อนในศาลหากินกับคนป่วย คนที่เดือดร้อนในศาล
คนคิดบวก – (คิดได้ไงเนี่ย) ถ้าไม่มีล่าม คนก็จะเดือดร้อน ไม่เข้าใจภาษา ถูกเอาเปรียบ การที่เราไปเป็นล่ามให้เขา เป็นสิ่งที่ดี ไม่ใช่เป็นการหากินกับคนที่เดือนร้อนแม้แต่น้อย เป็นอาชีพที่สุจริจและมีเกียรติ และที่สำคัญคนที่จ่ายเงินคือศาลกับโรงพยาบาล (ยกเว้นคดีแพ่งที่ส่วนใหญ่ต้องจ่ายค่าล่ามเอง) คนที่เราแปลให้ ไม่ได้เสียเงินเลยแม้แต่เซ็นต์เดียว

คนคิดลบ – กลัวไม่มีงาน กลัวแปลผิด กลัวเขาไม่จ้างเราต่อไป
คนคิดบวก – รับงานไว้ก่อน ถือว่าไปฝึก เอาผิดเป็นครู ฝึกบ่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่ง

คนคิดลบ – ฉันไม่สบายมาก คงหายไม่ทันงานแน่ๆ เลย
คนคิดบวก – รู้สึกไม่ค่อยสบาย รีบพัก พรุ่งนี้ก็หายทำงานได้ฉลุย

คนคิดลบ – มันชอบอวดผลงาน
คนคิดบวก – ฉันเป็นศิลปิน เป็นนักเขียน ถ้าไม่อวดก็ไม่มีใครเห็นสิจ๊ะ

คนคิดลบ – หมั่นไส้จังนังนี่
คนคิดบวก – ดีจังมีคนหมั่นไส้เราด้วย

คนคิดลบ – ฉันมีลูกต้องดูแล ทำงานไม่ได้หรอก
คนคิดบวก – ฉันมีลูกต้องดูแล ฉันทำงานเพื่อลูกได้

คนคิดลบ – ฉันเกลียดพวกคนที่เอาฉันไปนินทาลับหลัง
คนคิดบวก – ว้าว เราแซงเขามาแล้วเหรอเนี่ย เขาถึงนินทาลับหลังเราได้

คนคิดลบ – คุณทำไม่ได้หรอก งานนี้มันยากเกินไปสำหรับคุณ
คนคิดบวก – ไม่เชื่อ

คนคิดลบ – งานล่ามเห็นแต่คนทุกข์ ทำงานแล้วเครียดเพราะได้เห็นเรื่องราวต่างๆ ของคนที่เราแปลให้อย่างละเอียด ทำให้ตัวเองเก็บกด เป็นประสาท
คนคิดบวก – การเห็นทุกข์ทำให้เห็นธรรม เราก็เรียนรู้จากคนเหล่านั้น ให้ถือเป็นบทเรียนเพื่อที่เราจะได้ไม่ทุกข์เหมือนเขา มันเป็นอนิจจัง ทำให้เราฝึกอุเบกขา

นี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ได้ยินได้ฟังมาในช่วงที่ทำงานล่าม

คนชอบมาปรึกษาฉันเพราะเขารู้ว่าฉันเป็นคนมองโลกในแง่ดี ถึงแม้ว่าฉันจะไม่มีคำตอบให้เสมอไป แต่อย่างน้อยก็เป็นกำลังใจไม่ให้เขาท้อและก้าวต่อไปได้ บางทีเขามาคุยกับฉันแป๊บเดียว เขาก็คิดหาวิธีแก้ปัญหาได้เอง ทั้งๆ ที่ฉันไม่ได้ช่วยคิดอะไรมากมาย เพียงแต่ส่งพลังที่เป็นบวกไปให้เขาเท่านั้น

การคิดลบมีผลต่างร่างกายและจิตใจอย่างมาก จริงๆ แล้ว เขาทำร้ายร่างกายตัวเอง วิชา iridology หรือการวินิจฉัยโรคผ่านม่านตา บอกว่า…
– เวลาโกรธ อารมณ์โกรธลงตับ ถุงน้ำดีและต่อมไทรอยด์
– เวลากลัว อารมณ์กลัวลงต่อมหมวกไตและต่อมไทมัส
– เวลาเศร้า อารมณ์เศร้าลงตับอ่อน
– เวลาเจ็บปวด อารมณ์เจ็บปวดลงต่อมใต้สมอง

ฉันเป็นคนที่ทุ่มเทเรื่องดูแลสุขภาพของตัวเอง เรื่องอะไรจะไปโกรธ เกลียด กลัว เศร้าและเจ็บปวดให้โง่

มีหลายงานวิจัยได้พบว่าการคิดบวกมีข้อดีหลายอย่าง เช่น

– ช่วยให้ประสบความสำเร็จด้านการงานและชีวิตส่วนตัว
– เป็นที่รักของคนส่วนใหญ่
– ไม่โกรธง่าย ไม่เกลียด ไม่อิจฉาคนอื่น หรือถ้ามีก็น้อยและหายเร็ว
– ไม่แคร์คนอื่นเพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไร ทำให้เป็นตัวของตัวเอง
– มีความกระตือรือร้นและมีกำลังที่จะทำสิ่งต่างๆ
– ชีวิตเต็มไปด้วยความหวัง
– ลดความเครียด ทำให้มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี
– ทำให้ชีวิตมีรสชาติในหลายๆ ระดับ

การที่เป็นคนคิดบวกทำให้ฉันประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตนต้องการทุกอย่างแล้ว (ฉันคนมักน้อย) แต่ยังคิดว่าถ้าตั้งใจทำดีคิดดี ต่อไป ก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้มากกว่านี้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ซีเรียสกับลาภ ยศ สรรเสริญ

หวังว่าเพื่อนๆ จะคิดบวกเหมือนกันนะคะ

– ล่ามเอ๋

ขอบคุณ​บทความดีๆจาก คุณ​เบญจวรรณ ภูมิแสน